การอ่านเป็น ทักษะนำทางสู่ การเรียนรู้อื่นๆทั้งหมด
Reading is the gateway skill that makes all other learning possible
- Barack Obama -
ใครใครก็ รู้ว่าการอ่านเป็นสิ่งสำคัญ ลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของเด็กที่ประสบความสำเร็จในการเรียนคือ ความสามารถในการอ่าน การอ่านเป็นสิ่งสำคัญเพราะ ว่ามันเป็นการพัฒนาความคิดของเรา และให้ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด การอ่านทำให้เราได้รับข้อมูลต่างๆ ช่วยให้เราได้เรียนรู้มากขึ้น มีความเข้าใจมากขึ้น และ ทำให้เราฉลาดมากขึ้น
การอ่านไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเป็นประจำทำให้เราได้ความรู้ และมีทักษะในการใช้ภาษา รวมทั้งการพัฒนาการเขียน.
ข้อดีมากมายของการอ่าน
ได้ความรู้ ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นทำให้ฉลาดขึ้น Knowledge is Power.
การอ่านเป็นการบริหารสมอง การอ่านทำให้สมองทำงานในลักษณะที่ซับซ้อนมากกว่าการพูดหรือการดูทีวี ในขณะที่เราอ่านคำ หรือข้อความแต่ละบรรทัดนั้น เป็นการกระตุ้นสมองของเรา ในส่วนของทักษะความตั้งใจ (Concentration) และ ทักษะการวิเคราะห์ (Analysis)
นอกจากนี้การอ่านเป็นการพัฒนาความจำ (Memory) และ ความตั้งใจ (Concentration) การอ่านหนังสือเป็นประจำทุกวัน แม้ว่าเป็นการอ่านวันละเล็กน้อยก็ตาม สามารถ พัฒนาความจำและความสามารถในการโฟกัส
เนื่องจากการอ่านเป็นการพัฒนาสมองส่วนที่เป็นความตั้งใจจึงช่วยให้เด็กมีสมาธิดีขึ้น เพราะการอ่านต้องใช้กระบวนการเรียบเรียงความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่อ่าน
การอ่านทำให้ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ
การอ่านพัฒนาความรู้ด้านภาษา ทำให้มีทักษะการใช้ภาษาได้ดีขึ้น
การอ่านช่วยลดความเครียด และ พัฒนา ตัวตนของเรา เช่น การอ่าน หนังสือแนวบันเทิง หรือ การอ่าน หนังสือที่ช่วยพัฒนา ตนเอง (self-help) จะช่วยให้เรา รู้วิธีในการพัฒนา ทักษะในส่วนที่เราต้องการ
การอ่านทำให้ ความสามารถในการเขียน ของคุณดีขึ้น ทักษะการเขียนเป็นส่วนหนึ่งในการ วิเคราะห์ความสามารถของคน เช่น เวลาเราสมัคเรียน หรือ สมัครทำงาน คนที่อ่านหนังสือมากกว่า มี แนวโน้ม ที่จะมีทักษะการเขียนได้ดีกว่า คนที่อ่านหนังสือน้อย กว่า
การอ่านช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สร้างจินตนาการ
เด็กที่มีทักษะการอ่านดีกว่ามีแนวโน้มประสบความสำเร็จในการศึกษามากกว่า
เด็กที่อ่านภาษาอังกฤษบ่อยกว่าก็จะเก่งภาษาอังกฤษมากกว่า
การผสมโฟนิคส์เข้ากับกิจกรรมการอ่านประจำวัน
การอ่านเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนอย่างมีประสิทธิภาพ. การผสมการสอนโฟนิคส์เข้ากับกิจกรรมการอ่านประจำวันมีความสำคัญอย่างมากในการสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมให้กับการเรียนรู้ของเด็กในบทความนี้เราจะสำรวจวิธีการผสมการสอนโฟนิคส์ในกิจกรรมการอ่านประจำวันของเด็กเพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจ
การอ่านเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนอย่างมีประสิทธิภาพ. การผสมการสอนโฟนิคส์เข้ากับกิจกรรมการอ่านประจำวันมีความสำคัญอย่างมากในการสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมให้กับการเรียนรู้ของเด็ก. ในบทความนี้เราจะสำรวจวิธีการผสมการสอนโฟนิคส์ในกิจกรรมการอ่านประจำวันของเด็กเพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและน่าสนใจ.
- การเล่าเรื่อง: เริ่มต้นกิจกรรมการอ่านด้วยการเล่าเรื่องที่มีคำศัพท์พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการสอนโฟนิคส์ เช่น เรื่องราวที่มีคำศัพท์ที่เป็นพื้นฐานเหมือน “cat”, “dog”, “sun” เป็นต้น.
- การใช้ตัวอักษรในชีวิตประจำวัน: ในระหว่างกิจกรรมการอ่าน ให้เด็กสังเกตตัวอักษรในสิ่งที่พวกเขาเห็นรอบตัว เช่น การพาสาวน้อยสังเกตตัวอักษรบนป้ายทางออก หรือการระบุตัวอักษรในหนังสือเมนูขณะที่กินอาหาร.
- การใช้การ์ดคำ: ใช้การ์ดคำที่มีภาพวาดและคำศัพท์เขียนอยู่ เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสทำความเข้าใจเสียงของคำและตัวอักษรตามที่พวกเขาอ่าน.
- การสร้างเกมที่เน้นโฟนิคส์: สร้างกิจกรรมเกมที่เน้นการอ่านและการจดจำตัวอักษรและคำ เช่น เกมหาตัวอักษรในสิ่งของที่เจอรอบตัว หรือเกมการจับคู่คำกับภาพ.
- การพูดคุยและสร้างคำสั่ง: ในระหว่างการอ่าน เชื่อมโยงกับโฟนิคส์โดยการสร้างคำสั่งเพื่อให้เด็กระบุเสียงของคำและตัวอักษร.
- การสร้างสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง: ใช้เหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของเด็ก เช่น การเดินทาง การเล่น เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่มีความสนุกสนานและเชื่อมโยงกับโฟนิคส์.
การผสมการสอนโฟนิคส์ในกิจกรรมการอ่านประจำวันของเด็กเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมให้กับการเรียนรู้ของพวกเขา. โดยการเชื่อมโยงการสอนโฟนิคส์ในกิจกรรมการอ่านที่น่าสนใจและสนุกสนาน จะช่วยให้เด็กมีความเข้าใจและความชำนาญในการใช้ภาษาตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภา
